หน้าเว็บ

ยินดีต้อนรับสู่บล็อค

วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พระราชบัญญัติด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์





    พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์  พ.ศ.2550ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2550 นับได้ว่าเป็นที่จับตามองและมีความสำคัญอย่างมากในทุกวงการ เพราะปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหน่อยงาน องค์กรต่างๆ ภาครัฐ เอกชน คนทำงาน นิสิต นักศึกษา ก็ล้วนเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกัน พ.ร.บ.ฉบับนี้ และเตรียมพร้อมรับมือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ และให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยของเราเป็นไปในทางที่สร้างสรรค์
ทำไมถึงต้องมี พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
·                     เพราะว่าทุกวันนี้คอมพิวเตอร์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน   ชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งมีการใช้งานคอมพิวเตอร์โดยมิชอบโดยบุคคลใดๆก็ตามที่ส่งผลเสียต่อบุคคลอื่น รวมไปถึงการใช้งานคอมพิวเตอร์ในการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือมีลักษณะลามกอนาจาร จึงต้องมีมาตรการขึ้นมาเพื่อเป็นการควบคุมนั่นเอง
แบบไหนจึงจะเรียกเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้
·                     การเปิดเผยข้อมูลมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบ         คอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ
·                     การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ
·                     การดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
·                     การทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมขอมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ
·                     การกระทำเพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
·                     การสั่งข้อมูลคอมพิวเตอร์รบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยปกติสุข
·                     การจำหน่ายชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด
·                     การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทำความผิดผู้อื่น ผู้ให้บริการจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิด
·                     การตกแต่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นภาพของบุคคล


ผู้ให้บริการที่ระบุใน  พ.ร.บ. นี้ คือบุคลใดบ้าง

·                     สำหรับผู้ให้บริการตามที่ พ.ร.บ.นี้ได้ระบุไว้สามารถจำแนกได้เป็น4ประเภทใหญ่ๆดังนี้

·                     ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมไม่ว่าโดนระบบโทรศัพท์ ระบบดาวเทียม ระบบวงจรเช่าหรือบริการสื่อสารไร้สาย

ผู้ให้บริการการเข้าถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไม่ว่าโดนอินเตอร์เน็ต ทั้งผ่านสายไร้สาย หรือ ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในที่เรียกว่าอินเทอร์เน็ต ที่จัดตั้งขึ้นในเฉพาะองค์กรหรือหน่วยงาน

·                     ผู้ให้บริการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ หรือให้เช่าบริการโปรแกรมประยุกต์( Host Service Provider)

·                     ผู้ให้บริการข้อมูลคอมพิวเตอร์ผ่าน application ต่างๆที่เรียกว่า content provider เช่นผู้ให้บริการ web board  หรือ web service เป็นต้น

หากคุณเป็นผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลอะไรบ้างและจะต้องเก็บข้อมูลเหล่านั้นนานแค่ไหน
·                     ในกรณีนี้ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูล 2ประเภท โดยแบ่งตามได้รูปแบบ ดังนี้
·                     ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร ที่บอกถึงแหล่งกำเนิดต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง วันที่ เวลา ปริมาณ ระยะเวลา ชนิดของบริการหรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องเก็บไว้ไม่น้อยกว่า90วัน นับแต่วันที่ข้อมูลนั้นๆ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการเก็บข้อมูลนั้นๆ ไว้เกิน90วัน แต่ไม่เกิน 1ปี เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้
·                     ข้อมูลของผู้ใช้บริการทั้งที่เสียค่าบริการหรือไม่ก็ตาม โดยต้องเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็นเพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน USERNAME หรือ PIN CODE และจะต้องเก็บรักษาไว้ ไม่น้อยกว่า 90 วัน นับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง
หากคุณเป็นผู้ให้บริการแต่ไม่ได้เก็บข้อมูลผู้ใช้บริการไว้เลย ถือว่าทำผิด พ.ร.บ.หรือไม่

·         ถือว่าทำผิดและอาจถูกปรับสูงถึง 500,000 บาท
ผู้ให้บริการที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. นี้ จะต้องเริ่มเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการเมื่อใด

·         กรณีแรกหากคุณเป็นผู้ให้บริการแก่บุคนอื่นในการเข้าสู่อินเตอร์เน็ตหรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเองหรือในนามหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่นจะต้องเริ่มเก็บข้อมูลดังกล่าว ภายใน 90 วันนับจากวันที่ได้มีการประกาศหลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูล จราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ

·         อีกกรณีหนึ่งคือในกรณีที่คุณเป็นผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น จะต้องเริ่มเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์และข้อมูลผู้ให้บริการภายใน 150 วัน นับจากวันที่ได้มีการประกาศหลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ
บทลงโทษสำหรับผู้กระทำความผิดกฎหมายภายใต้ พ.ร.บ.นี้
·         ผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
ในส่วนของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจดำเนินการอย่างไร
·         หากเกิดกรณีที่เชื่อว่ามีการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.เจ้าหน้าที่มีอำนาจอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
·         การใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ต้องขออนุญาตศาล

·         มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้มาเพื่อให้ถ้อยคำ ส่งคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือส่งเอกสาร ข้อมูล หรือหลักฐานอื่นใดที่อยู่ในรูปแบบที่สามารถเข้าใจได้

·         เรียกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากผู้ให้บริการเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรือจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง

·         สั่งให้ผู้ให้บริการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่ต้องเก็บตามมาตรา ๒๖ หรือที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของผู้ให้บริการให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่

·         ทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นยังมิได้อยู่ในความครอบครองของพนักงานเจ้าหน้าที่

·         สั่งให้บุคคลซึ่งครอบครองหรือควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์ดังกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่

·         ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ของบุคคลใดอันเป็นหลักฐานหรืออาจใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือเพื่อสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็นให้ด้วยก็ได้

·         ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใดหรือสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทำการถอดรหัสลับ หรือให้ความร่วมมือกัลป์พนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหัสดังกล่าว

·         ยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์เท่าที่จำเป็นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่งความผิดและผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้

หากได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่แล้ว เจ้าหน้าที่จะมีขั้นตอนในการสืบสวนอย่างไร
·         หากคุณได้เข้าแจ้งความแล้วพนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะมีขั้นตอนในการดำเนินการ ดังนี้
·         เมื่อได้รับการร้องทุกข์หรือตรวจพอว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จะติดต่อกับผู้ดูแลเว็บไซต์ เพื่อขอหมายเลข IP Address และวันเวลาที่พบการกระทำความผิด
·         เมื่อทำการตรวจหมายเลข IP Address แล้วพบว่าเป็นของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider) รายใด เจ้าหน้าที่จะทำหนังสือสอบถามข้อมูลจราจรและข้อมูลผู้ให้บริการ
·         หลังจากนั้นจะมีการเชิญผู้เกี่ยวข้องหรือผู้ที่มีรายชื่อปรากฏมาให้ปากคำ
ถ้าหากคุณเป็นผู้เสียหายจะต้องทำอย่างไร
·         หากคุณกลายเป็นผู้เสียหาย แนะนำว่าให้คุณจดจำ URL (Uniform Resource Locater) ที่พบว่ามีการกระทำความผิด และให้คุณรวบรวมพยานหลักฐานที่สามารถหาได้ เช่น จัดพิมพ์รายละเอียดต่างๆ จดจำวันเวลาและสถานที่ที่พบว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แล้วให้รีบไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานตำรวจ ณ สถานีตำรวจในท้องที่ที่ความผิดเกิดขึ้น
หากต้องการศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ไหน และมีหน่วยงานใดบ้างที่ดูแลรับผิดชอบ
·         กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
·         ศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี(High-Tech Crime Center)
 :http://htcc.police.go.th
·         กองบัญชาการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร:
http://ict.police.go.th/
·         สำนักงานตำรวจแห่งชาติ:
·         กรมสอบสวนคดีพิเศษ:
·         เว็บไซต์NECTECเพื่อประชาคมความรู้ (NECTEC PEDIA)
ประโยชน์ของกฎระเบียบหรือข้อบังคับทางการสื่อสารและการใช้เทคโนโลยี
·         มีภัยคุกคามทางอินเตอร์เน็ตใหม่ๆเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง การควบคุมการกระทำความผิดใดๆ อันก่อเกิดผลเสียต่อบุคคลอื่นจะช่วยป้องกัน














ฐานความผิด
โทษจำคุก
โทษปรับ
การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ
ไม่เกิน6เดือน
ไม่เกิน10,000บาท
การเปิดเผยมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะโดยไม่ชอบ
ไม่เกิน1ปี
ไม่เกิน20,000บาท
การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ชอบ
ไม่เกิน2ปี
ไม่เกิน40,000บาท
การดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยไม่ชอบ
ไม่เกิน3ปี
ไม่เกิน60,000บาท
การทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ
ไม่เกิน5ปี
ไม่เกิน100,000บาท
การกระทำเพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ผู้อื่นไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
ไม่เกิน5ปี
ไม่เกิน100,000บาท
การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์รบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยปกติสุข (Spam mail)
ไม่มี
ไม่เกิน100,000บาท
การจำหน่ายชุดคำสั่งที่จำทำขึ้นเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด
ไม่เกิน1ปี
ไม่เกิน20,000บาท
การกระทำต่อความมั่นคง
-ก่อความเสียหายแก่ข้อมูลคอมพิวเตอร์
-กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ/เศรษฐกิจ
-เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต

ไม่เกิน10ปี
3ปีถึง15ปี
10ปีถึง20ปี

และไม่เกิน200,000บาท
และ60,000-300,000บาท
ไม่มี
การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทำความผิดอื่น(การเผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม)
ไม่เกิน5ปี
ไม่เกิน100,000บาท

ผู้ให้บริการจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิด
ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิด
ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิด
การตกแต่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นภาพของบุคคล
ไม่เกิน3ปี
ไม่เกิน60,000บาท